" ครั้งแรกกับการเดินทางด้วย ออฟโรด ขึ้นดอย "

" ครั้งแรกกับการเดินทางด้วย ออฟโรด ขึ้นดอย "


ครั้งแรกกับประสบการณ์การขึ้นดอยด้วย ออฟโลด 

 ไหว้เจ้าที่ก่อนเดินทาง

        เปิดประสบการณ์ครั้งแรกกับการเดินทางด้วยความยากลำบาก โหด มันส์ ฮา เราเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม 2554 เดินทางเข้าพื้นที่ได้ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ต้องเจอกับอุสรรคแรกคือดินสไลด์พาดทับถมทางที่เราจะต้องนำรถผ่านไป 



เราใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะผ่านจุดนี้ได้ ประมาณบ่าย 3 โมง  กว่าจะสำเร็จก็เกือบๆเย็นกันเลยทีเดียว และสุดท้ายทีมงานของพวกเราก็สามารถนำรถทุกคันที่มาด้วยกันผ่านจุดนี้ไปได้ ด้วยความพยายามที่จะนำสิ่งของที่เตรียมมาไปให้น้องๆ ที่รอคอยอยู่ 


เมื่อเราผ่านดินสไลด์มาได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมงรถพี่บอม (คันที่ผมโดยสาร) ก็ได้ติดอยู่หล่มซึ้งพี่บอมพยามจะออกจากหล่มนั้นซึ้งสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมีฝนตกลงมาอย่างแรงภายในเวลาแปปเดียวโดยที่พวกเรายังไม่ได้ทันตั้งตัว เพราะถ้าฝนตกจะอันตรายมากๆ ขวามือคือหน้าผา ส่วนซ้ายมือคือแหว ซึ้งเราจะประมาทไม่ได้เลย เราพยามอยู่เกือน 1 ชั่วโมงแต่ไม่สามารถนำรถขึ้นจากหลุมนั้นได้ สุดท้ายต้อง วอ ขอความช่วยเหลือจากทีมงานที่ได้ผ่านจุดนั้นไปแล้ว โดยการลากจูง เมื่อพ้นจากหลุมนั้นได้รถพี่บอมก็ไม่สามารถขับต่อได้ไม่รู้เกิดจากสาเหตุอะไร ที่ทำให้เหยียบคันเร่งไม่ขึ้น รถไม่มีแรง 


จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อเมื่อรถพี่บอมพ้นจากหลุ่มที่ติดอยู่เป็นชั่วโมง ตอนนี้เริ่มมืดแล้วมองไม่เห็นทางต้องใช้ไฟรถช่วยในการเดินทาง เพราะบนดอยจะมืดเร็วกว่าปกติ เราเดินทางมาเรื่อยๆ ยังไม่ถึง 5 กิโลเมตร ก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นอีก เนื่องจากรถพี่บอมไม่มีแรงไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้จึงลากจูงแต่คันที่ลากจูง(รถพี่หมู)เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยคือถนนลื่นที่ฉ่ำไปด้วยฝนทำให้รถคนที่ลากไม่สามารถขับเคลื่อนต่อได้เพราะหนักจึงทำให้รถตะแคงขวางถนนสองล้อลอยขึ้นมาโชคดีที่รถไม่พลิกคว่ำ ผมและพี่ น้อง อีกสองคนจึงตัดสินใจลงจากรถเพื่อที่จะให้รถเบาขึ้น เราลงมากัน 3 คน มี ผม พี่แคน และน้องเอ็ม เดินเท้ารถรถคันข้างหลังที่ไม่หนักมากเพื่อนที่จะโดยสาร ช่วงที่เราเดินนั้นเป็นช่วงขึ้นเนินซึ่งรถ

จะไม่สามารถจอดรับพวกเรา 3 คนตรงจุดนั้นได้เพราะต้องเร่งเพื่อที่จะให้รถผ่านเนินนั้นไป และแล้วรถคันสุดท้ายก็มาถึงเราก่อนที่จะเร่งเครื่องขึ้นเนินสูง (เดี๋ยวพี่เค้าคงจอดรอเราเมื่อพ้นเนินไปแล้ว) สุดท้ายสิ่งที่เรา 3 คนไม่คิดก็เกิดขึ้นเมื่อรถคันสุดท้าย (มาด้วยกันแต่คนละทีมงาน) ขึ้นเนินได้แล้วขับต่อไปเลย เรา 3 คนได้แต่มองหน้ากันแลัวพูดว่า เหี้….แล้วไง เรา 3 คนตัวเปล่าทุกคนไม่มีอะไรเลยแม้กระทั้งไฟฉายและรองเท้า ตอนนั้นก็มืดมากแล้วด้วย 1 ทุ่มๆ กว่าเห็นจะได้ เรา 3 คน เดินทางโดยอาสัยแสงจากฟ้าแลบเพื่อมองทางถนนลื่นมาก โชคดีที่ถนนเส้นนั้นมีเพียงเส้นเดียวเราจึงเดินตามถนนไปเรื่อยๆ กี่กิโลเมตรเราไม่รู้ รู้แต่ว่าเดินไกลเหมือนกันและคอยฟังเสียงรถไปเรื่อยไปตามสัญชาติญาณจนกระทั่งเราเดินไปถึงโรงเรียนทีมงานทุกคนตกใจเพราะคิดว่าเรามาพร้อมกับรถคันอื่นและเรา 3 คนก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพพร้อมกับความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

สุดท้ายภารกิจการส่งมองสนามเด็กเล่นของพวกเราก็เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี 



     ถึงแม้จะมีอุปสรรคต่างๆมากมายมาขวางกั้นพวกเราแต่ก็ไม่สามารถขัดขวางพวกเราได้ พวกเราได้ส่งมอบสนามเด็กเล่น เสาธง และอาหารกลางวันให้แก่เด็กๆ เด็กๆมีรอยยิ้ม และนั้นคือสิ่งที่พวกเราดั้นด้นมา “แต่คำๆนึงที่ผมได้ยินจากปาก พี่เคม เมื่อเราผ่านจุดแรกมาได้คือ “เด็กๆได้ของเล่นแล้วโว้ย” เสียงนี้ดังออกมาเมื่อรถของพวกเราผ่านจุดแรกมาได้” “สุดยอด

ทีมงานคุณภาพ B.P.S. สนับสนุน


รูปภาพจาก :: Came SP
SHARE

I AM VOLUNTEER NAMMON

มีเรื่องราวดีๆเอามาเล่าสู่กันฟัง

    Blogger Comment
    Facebook Comment

1 ความคิดเห็น: